ข่าวกีฬา เจสซี่ย์ ลินการ์ด นำทัพเหล่าแข้งผลงานเยี่ยม
ตบเท้าเข้าติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 31 ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล, เวสต์บรอม และ อาร์เซน่อล ต่างส่งผู้เล่นเข้ามาติดทีมละ 2 ราย ส่วนคนอื่นๆ จะมีใครเข้ามาบ้างไปดูกันได้เลย
ผู้รักษาประตู : แซม จอห์นสตัน (เวสต์บรอมวิช)
นอกจากจะเซฟลูกจุดโทษรักษาสกอร์ให้ทีมเก็บคลีนชีตแล้ว นายด่าน “เดอะ แบ๊กกี้ส์” ยังป้องกันประตูได้อีก 3 ครั้ง โดย แซม จอห์นสตัน กลายเป็นผู้รักษาประตูของ เวสต์บรอมวิช คนแรกที่สามารถเซฟจุดโทษได้ในเกม พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่ โบอาซ มายฮิลล์ ทำได้ในเกมเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015
นอกจากนี้ จอห์นสตัน ยังเป็นผู้รักษาประตูที่ออกแรงเซฟมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่จำนวน 124 ครั้ง
กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แสดงให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ เห็นแล้วว่าเขายังอยู่ในฟอร์มที่ดีแค่ไหน ถึงแม้เกมนี้จะมีลูกเปิดที่ไม่เข้าเป้าหลายครั้ง แต่ เทรนท์ ก็ยังไม่ถอดใจเติมเกมบุกสอยประตูชัยพา ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ประตูดังกล่าวของ เทรนท์ ในวัย 22 ปี 185 วัน ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของ ลิเวอร์พูล ที่ทำประตูชัยได้ในช่วงเวลา 90+ นับตั้งแต่ที่ นีล เมลเลอร์ เคยทำไว้ในเกมเอาชนะ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 (22 ปี 24 วัน)
กองหลัง : ไคล์ บาร์ธลี่ย์ (เวสต์บรอมวิช)
แนวรับวัย 29 ปีทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเกมที่ต้นสังกัดเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยสกอร์ที่ผิดคาดถึง 3-0 โดย บาร์ธลี่ย์ มีสถิติด้านเกมรับที่ยอดเยี่ยมด้วยการเคลียร์บอลทิ้งได้ถึง 8 ครั้งรวมถึงตามสกัดบอลได้อีก 1 หน
กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
นอกเหนือจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แล้ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็ยังทำผลงานได้ดีเช่นกันในเกมล่าสุด แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ มีส่วนร่วมการขับเคลื่อนเกมรุกเยอะมาก โดยนัดนี้เจ้าตัวสร้างโอกาสให้กับทีมได้ 3 ครั้ง มากสุดเหนือกว่าใครๆ
กองกลาง : สจ๊วร์ต ดัลลาส (ลีดส์)
แข้งวัย 29 ปีคือแจ็กผู้ฆ่ายักษ์ของจริง ต้นสังกัดของเขาเล่นได้เพอร์เฟคสุดๆ ทั้งที่เหลือตัวผู้เล่นแค่ 10 คน แต่กลับบุกเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม
ประตูชัยของ ดัลลาส แสดงให้เห็นถึงพละกำลังอันยอดเยี่ยม ก่อนจะส่งบอลผ่าตัว เอแดร์ซอน ตุงตาข่าย โดยเจ้าตัวกลายเป็นผู้เล่น “ยูงทอง” คนแรกที่ทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้แก่ ลีดส์ บนลีกสูงสุด อังกฤษ
กองกลาง : โธมัส ปาเตย์ (อาร์เซน่อล)
มิดฟิลด์ทีมชาติกาน่า ทำผลงานโดดเด่นเหลือเกิน คุมเกมแดนกลางพา อาร์เซน่อล บุกคว้าชัยที่ บรามอลล์ เลน
แฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” คงมีความสุขที่ได้เห็น ปาเตย์ ลงสนามครบ 90 นาทีเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันในเกมลีก โดยก่อนหน้านี้มีแค่ 3 เกมเท่านั้นที่เขาลงเล่นครบเวลานับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ อาร์เซน่อล
กองกลาง : เจสซี่ย์ ลินการ์ด (เวสต์แฮม)
อีกหนึ่งฟอร์มระดับท็อปคลาสของ เจสซี่ย์ ลินการ์ด ประตูแรกเกิดจากการวางเท้าอันยอดเยี่ยมชนิดที่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตู เลสเตอร์ หมดสิทธิ์ที่จะป้องกัน
ในการลงเล่นให้กับ เวสต์แฮม แค่ 9 นัดของเขา ลินการ์ด มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 11 ครั้ง( 8 ประตู 3 แอสซิสต์) ซึ่งเป็นแข้ง “เดอะ แฮมเมอร์ส” ที่มีส่วนร่วมกับประตูในจำนวนตัวเลขสองหลักได้เร็วที่สุด
กองกลาง : คริสเตียน พูลิซิช (เชลซี)
พูลิซิช เหมาสองประตูพา เชลซี บุกกำราบ คริสตัล พาเลซ 4-1 โดยทั้งสองลูกมาจากคลาสบอลอันเหนือชั้นของแข้งมะกันรายนี้ ซึ่งทำให้เขายิงประตูใส่ “ดิ อีเกิ้ลส์” ไปแล้วทั้งสิ้น 4 ประตู และยังเป็นดาวเตะจาก สหรัฐฯ
กองหน้า : อัลแล็ง แซงต์-แม็กซิแม็ง (นิวคาสเซิ่ล)
ชัยชนะสุดสำคัญของ นิวคาสเซิ่ล มาจากการที่ สตีฟ บรู้ช ส่งแข้งเลือดน้ำหอมรายนี้ลงสนาม และเขาก็ใช้เวลาไม่นานในการพาทีมพลิกสกอร์จากตามหลังกลับมาขึ้นนำ จนสุดท้ายคว้าชัยชนะไปได้
สำหรับ แซงต์-แม็กซิแม็ง กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ของ นิวคาสเซิ่ล เท่านั้นที่ทำประตูกับแอสซิสต์ได้ในฐานะการลงเป็นตัวสำรอง และเป็นคนแรกต่อจาก โรแลนโด้ แอรอนส์ ที่ทำไว้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016
กองหน้า : อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ (อาร์เซน่อล)
4 ประตูจาก 6 เกมคงจะบอกอะไรได้ว่าฟอร์มของ ลากาแซ็ตต์ ตอนนี้ยอดเยี่ยมเพียงใด นอกจากนี้เจ้าตัวยังกลายเป็นผู้เล่น ฝรั่งเศส คนที่ 6 ที่สามารถทำประตูใน พรีเมียร์ลีก แตะหลัก 50 ลูกในนามหนึ่งสโมสร
กองหน้า : เอดินสัน คาวานี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)